สำหรับสาย Nintendo หรือคนที่โตมากับลุงหนวดชุดแดง คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ Super Mario Odyssey เกม มาริโอ 3D ที่ทั้งสด ใหม่ และเต็มไปด้วยไอเดียบ้าๆ ดีๆ แบบ “นี่ทีมงานคิดอะไรอยู่แต่เราชอบมาก” เกมนี้คือการพา Mario ออกจากสูตรเดิม ๆ แล้วโยนเขาไปใน “โลกกว้างแบบจริงจัง” ที่มีทั้งเมืองคนจริง เมืองหมวก เมืองทะเลทราย เมืองอาหาร ไปจนถึงโลกดนตรี

กลางวันคุณอาจกำลังอยู่โหมดจริงจัง ทำงาน เคลียร์เดดไลน์ หรือแอบลุ้นผลกีฬาในเว็บใหญ่ที่กดเข้าผ่าน ทางเข้า UFABET ล่าสุด เป็นเรื่องปกติ แต่พอเปิด Super Mario Odyssey ปุ๊บ โลกจะเปลี่ยนเป็นโหมด “เราจะโดดบนหมวกใครดีวันนี้” ทันที บทความนี้จะพาไปดูแบบยาวหน่อยว่าเกมนี้มันเจ๋งยังไง เหมาะกับใคร แล้วทำไมถึงยังน่าเล่นมากๆ แม้จะไม่ใช่เกมใหม่แล้ว
Super Mario Odyssey ในหนึ่งตาราง
ขอสรุปภาพรวมให้เห็นไฟงานก่อน แล้วค่อยลงดีเทลแบบชิลๆ
| หัวข้อ | รายละเอียด |
|---|---|
| ประเภทเกม | 3D Platformer / Action-Adventure |
| เครื่อง | Nintendo Switch |
| จุดเด่นหลัก | ใช้หมวก Cappy ขว้าง–ยึดร่างสิ่งต่างๆ, โลกกว้างเป็น “Kingdom” หลากธีม, เล่นจบได้ทั้งแบบสบายๆ และแบบเก็บครบโหดๆ |
| เป้าหมายหลัก | เดินทางด้วยเรือเหาะ Odyssey เก็บ Power Moon เพื่อไล่ตาม Bowser และช่วย Princess Peach |
| สไตล์ | สดใส ไอเดียจัด มุกเยอะ เล่นได้ทุกวัย แต่ลึกพอให้ฮาร์ดคอร์ไล่เก็บ 100% เพลินๆ |
ถ้าสรุปสั้นมากๆ:
“นี่คือเกมที่เหมือน Nintendo ถามตัวเองว่า ‘ถ้ามาริโอออกไปเที่ยวรอบโลก จะเล่นใหญ่ได้แค่ไหน?’ แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า ‘ได้ประมาณนี้แหละ’ …แล้วเราก็ยิ้มทั้งเกม”
เนื้อเรื่อง: สูตรเดิมแต่เล่าใหม่แบบจัดเต็ม
โครงสร้างเนื้อเรื่องของ Super Mario Odyssey ยังเป็นสไตล์มาริโอคลาสสิก
- Bowser ลักพาตัว Princess Peach
- คราวนี้ไม่ใช่แค่จับไปเฉยๆ แต่ “เตรียมงานแต่ง” เลยจ้า
- Mario ไล่ตามเพื่อไปขัดขวางงานแต่ง และช่วยเจ้าหญิงให้ทันเวลา
แต่ความต่างคือ “สเกลของการไล่ตาม”
- Bowser ใช้เรือเหาะสุดหรูบินรอบโลก
- เราต้องใช้เรือเหาะ Odyssey ไล่ตามไปแต่ละ Kingdom
- แต่ละที่มีธีมและบรรยากาศเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน
ระหว่างทาง Mario ยังได้คู่หูใหม่อย่าง Cappy หมวกขาวมีตา ที่ไม่ได้เป็นแค่พร็อพให้เท่ แต่เป็น “กลไกหลักของเกมทั้งเกม”
Cappy: หมวกที่ไม่ใช่หมวก แต่คือทุกอย่างของเกมนี้
หัวใจของ Super Mario Odyssey คือการใช้หมวก Cappy
คุณสามารถ
- ขว้างหมวกใส่ศัตรูหรือสิ่งของ
- ใช้หมวกเป็นเหมือนบูมเมอแรงเพื่อโจมตีหรือเก็บของ
- และที่โคตรเปลี่ยนเกมคือ “Capture” หรือ ยึดร่าง
เวลาเราขว้างหมวกใส่สิ่งมีชีวิต/วัตถุบางอย่าง เราจะ “เข้าไปเป็นมัน” ได้เลย เช่น
- ยึดร่าง Goomba แล้วเกาะกันเป็นกองสูงปรี๊ด
- ยึดร่าง T-Rex ขนาดมหึมา เดินไล่ชนทุกอย่างพังเละ (โมเมนต์นี้โคตรสะใจ)
- ยึดร่าง Bullet Bill แล้วบินพุ่งข้ามเหว
- ยึดร่างกบแล้วโดดสูงแบบทะลุเพดาน
- ยึดร่างต้นไม้หิน แว่นขยาย ฯลฯ เพื่อแก้ปริศนาบางจุด
ไอเดียคือ
“ทุกด่านไม่ได้มีแค่แพลตฟอร์มให้โดด
แต่มีสิ่งต่างๆ ให้เราลอง ‘เป็นมัน’ แล้วใช้ความสามารถของมันเพื่อผ่านอุปสรรค”
นี่ทำให้การออกแบบแต่ละ Kingdom เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
และเวลาคุณเจอสิ่งมีชีวิตใหม่ๆ จะมีโมเมนต์ “ลองขว้างหมวกใส่ก่อนเลยว่าทำอะไรได้บ้าง” แทบทุกครั้ง
โครงสร้างเกม: โลกแบ่งเป็น Kingdom ให้สำรวจ
Super Mario Odyssey จะแบ่งโลกเป็นหลาย Kingdom แต่ละที่มีบุคลิกชัด เช่น
- Cap Kingdom – โลกหมอกๆ หมวกเต็มไปหมด
- Cascade Kingdom – น้ำตกใหญ่ มี T-Rex เดินเอื่อยอยู่บนเขา
- Sand Kingdom – ทะเลทรายเม็กซิโกฟีล เท่แต่หนาว (เพราะ Bowser กำลังเล่นของ)
- Metro Kingdom (New Donk City) – เมืองคนจริงๆ มีตึกสูง รถยนต์ และงานเทศกาลดนตรี
- Luncheon Kingdom – โลกอาหารสีพาสเทล เหมือนหม้อสตูยักษ์และภูเขาก้อนอาหาร
- ฯลฯ ยังมีอีกหลาย Kingdom ให้ไปเที่ยวเล่น
ในแต่ละ Kingdom เราจะมีเป้าหมายหลัก เช่น
- หาทางเปิดเส้นทางไปสู้บอส
- เก็บ Power Moon ให้พอใช้เดินทางต่อ
- เคลียร์สถานการณ์ที่ Bowser ทิ้งปัญหาไว้
แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้ “ลึกกว่าที่เห็น” คือเค้าออกแบบให้
ในด่านเดียวกันมี Power Moon ซุกเอาไว้เยอะมากกกกกกกก
เยขนาดที่ว่า เล่นผ่านเนื้อเรื่องหลักจบครั้งแรก อาจจะเก็บได้แค่ “บางส่วน” เท่านั้น
คนที่อินจริงๆ จะกลับมาไล่เก็บและค้นหาวิธีลับๆ เพื่อเอา Moon ที่ซ่อนอย่างโหด เช่น
- ต้องใช้เทคนิคกระโดดขั้นสูง
- ต้อง Capture ศัตรูบางตัวมารวมกัน
- ต้องสังเกตเงา/เสียง/จุดแปลกๆ บนฉาก
ทำให้เกมรองรับทั้ง
- คนที่อยาก “จบเรื่อง” แบบธรรมดา
- และคนที่อยากไล่เก็บ 100% แบบหฤโหด
การเคลื่อนไหวของมาริโอ: สนามเด็กเล่นของคนชอบแพลตฟอร์ม
หนึ่งในสิ่งที่เทพมากของ Super Mario Odyssey คือ “การควบคุมมาริโอ”
- มาโครสกิล: เดิน วิ่ง โดด ปีน กระโดดหมุน
- มีเทคนิคขั้นสูง เช่น
- Long Jump
- Triple Jump
- Side Flip
- Wall Jump
- โดดแล้วขว้างหมวก → กระโดดซ้ำบนหมวก → Dive ไปต่อ
อะไรแบบนี้ทำให้คนที่ “เล่นเก่งแล้ว” สามารถเล่นเกมในแบบที่เหมือนเป็น Parkour ได้เลย
สำหรับสายจริงจังทั้งวัน อย่างตอนนั่งไถเว็บตัวเลข สถิติ หรือแม้แต่เปรียบเทียบราคาในเว็บอย่าง สมัคร UFABET พอเปลี่ยนมาเล่นมาริโอแล้วโดดซ้อนท่าต่างๆ จนข้ามช่องว่างที่เกมไม่ได้ตั้งใจให้โดดได้ จะมีโมเมนต์ภูมิใจนิดๆ ว่า “กูนี่มันสปีードรันเนอร์ในใจตัวเองชัดๆ” 😂
งานภาพและดนตรี: สดใสแต่ละเอียด แบบ Nintendo สายเนี๊ยบ
แม้ Super Mario Odyssey จะวิ่งบน Nintendo Switch ที่สเปคไม่ได้โหดเท่าคอนโซลรุ่นใหญ่ แต่ทีมงานจัดการด้านภาพและดีไซน์ได้เนียนมาก
- สีสันสด แต่อ่านง่าย มองปุ๊บรู้เลยว่าอันไหนโดดได้ อันไหนอันตราย
- ดีเทลเล็กๆ เช่น
- มาริโอเปียกน้ำแล้วเสื้อผ้าดูชุ่ม
- ทราย/หิมะ/โคลนติดรองเท้า
- งานออกแบบเมือง New Donk City ที่เป็นการอ้างอิง Donkey Kong แบบเท่มาก
ดนตรีก็เป็นอีกจุดแข็ง
- แต่ละ Kingdom มีธีมเพลงของตัวเอง
- บางฉากใช้เพลงมาเสริมฟีลผจญภัยจนขนลุก
- เพลงธีม “Jump Up, Super Star!” กลายเป็นเพลงจดจำของเกมนี้ไปแล้ว
บรรยากาศโดยรวมคือ “เกมที่ทำให้ยิ้มได้บ่อย” ทั้งจากภาพ เสียง และความครีเอทีฟในฉาก
คอนเทนต์หลังจบ: เกมที่แท้จริงเริ่มหลังเครดิตขึ้น
Super Mario Odyssey เป็นหนึ่งในเกมที่
“เล่นจบเนื้อเรื่อง = จบแค่ครึ่งแรกของชีวิตเกม”
เพราะหลังเคลียร์ Bowser และดูเครดิตแล้ว
- จะมี Moon ใหม่ๆ โผล่มาเต็มด่านเก่า
- มี Kingdom ลับ/พื้นที่ใหม่ให้ไปสำรวจ
- ความยากของ Moon บางดวงโหดระดับสอบวัดใจคนเล่น
คนที่อยาก “เล่นแค่จบเรื่อง” สามารถหยุดตรงนั้นแล้วรู้สึกอิ่มก็ได้
แต่ถ้าเป็นสายเล่นละเอียดจะพบว่า
- การไล่ตามหาทุก Moon
- การลองใช้เทคนิคโดดยากๆ เพื่อไปยังจุดที่ดูเหมือนเข้าไม่ถึง
- การค้นหาความลับในเมืองต่างๆ
กลายเป็นอีกโลกหนึ่งของเกมที่มีชีวิตของตัวเองเลย
ทำไม Super Mario Odyssey ถึงเป็น “มาริโอ 3D ที่ต้องลองสักภาค”
หลายคนมอง Super Mario Odyssey เป็นเหมือน “จุดรวมพลังของสิ่งดีๆ จากมาริโอ 3D ทุกภาคก่อนหน้า”
- ความอิสระแบบ Super Mario 64
- ความมีธีมชัดเจนของแต่ละด่านแบบ Galaxy
- เพิ่มระบบ Capture ที่เปิดโอกาสในการออกแบบเลเวลแบบบ้าพลัง
และสิ่งที่ Nintendo ทำได้ดีมากคือ
- เล่นง่ายสำหรับคนที่ “แค่จะเล่นให้จบ”
- แต่ “เล่นยากในทางดี” สำหรับคนที่อยากลองกดเทคนิคโดดขั้นสูง เก็บ Moon โหดๆ
มันเลยเป็นเกมที่เล่นร่วมกันในบ้านได้ดีมาก
- เด็กเล็กเล่นแบบสนุกๆ วิ่งเล่นในเมือง ดูสีสัน
- ผู้ใหญ่ช่วยคิดแก้ปริศนา หาทางลับ หา Moon ซ่อน
- คนที่อินหนักๆ ก็ไปเปิดยูทูบดูเทคนิคโดด advance แล้วกลับมาลองทำเอง
เหมาะกับใคร / อาจไม่ใช่สายไหน
เหมาะมากถ้า…
- ชอบเกมแพลตฟอร์มกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง
- ชอบเกมโลกสดใส ไม่มีความรุนแรงดาร์กๆ เล่นกับเด็กได้
- ชอบสำรวจไปเรื่อยๆ ลองทุกมุม หาทางลับ
- เคยเล่นมาริโอภาคเก่าๆ แล้วอยากลอง “มาริโอ 3D ที่คราฟต์มาดีมาก”
อาจไม่ใช่ถ้า…
- ไม่ชอบเกมที่ต้อง “ลองผิดลองถูก” เพื่อหาทางเก็บของ
- ต้องการเนื้อเรื่องดราม่าเข้มข้นแบบฟาดหน้า ไม่ใช่โทนเบาสดใส
- เสพติดความสมจริงแบบกราฟิกหนักๆ มากกว่าโลกการ์ตูน
แต่โดยรวมแล้ว ถ้าคุณเคยสนุกกับเกมไหนสักเกมที่ทำให้คุณ “ยิ้มนั่งหน้าจอคนเดียว” บ่อยๆ Super Mario Odyssey มีโอกาสสูงมากที่จะทำแบบนั้นกับคุณได้เหมือนกัน
FAQ – คำถามชวนคุยเกี่ยวกับ Super Mario Odyssey
ถาม: ถ้าไม่เคยเล่นมาริโอ 3D มาก่อน เริ่มที่ Super Mario Odyssey เลยได้ไหม?
ตอบ: ได้เลย แถมเหมาะมากด้วย เพราะเกมออกแบบมาให้คนใหม่เล่นง่าย มีการสอนพื้นฐานไปเรื่อยๆ ช่วงแรกๆ แถมยังมีโหมดช่วยเหลือ (Assist) สำหรับมือใหม่หรือเด็กเล็ก ให้เล่นได้สบายขึ้น
ถาม: เกมนี้เล่นสองคนได้ไหม?
ตอบ: ได้ในรูปแบบ Co-op แบบหนึ่งคนบังคับ Mario อีกคนบังคับ Cappy ซึ่งสนุกในฟีลช่วยกันเล่น แต่อาจไม่แม่นเท่าเล่นคนเดียว ถ้าอยากแบ่งหน้าที่แบบ “คนหนึ่งเดิน คนหนึ่งคอยเป็นหมวกช่วยบล็อก/โจมตี/เก็บของ” ก็ตลกดี
ถาม: ต้องเก็บ Power Moon ครบถึงจะจบเกมไหม?
ตอบ: ไม่ต้อง เกมจะมีจำนวน Moon ขั้นต่ำให้เราเก็บพอใช้เดินทางไป Kingdom ต่อไปได้ ส่วนที่เหลือคือของแถมสำหรับคนอยากเล่นต่อ หลังจบเรื่องแล้วยังกลับมาเก็บเพิ่มได้อีกเยอะมาก
ถาม: เกมนี้ยากไหมสำหรับเด็กเล็ก?
ตอบ: ช่วงแรกๆ ไม่ยากมาก เพราะเกมออกแบบให้ใช้ท่าพื้นฐานก็ผ่านได้ แต่บาง Moon เชิงเทคนิคท้ายๆ จะโหดหน่อย ผู้ใหญ่ช่วยจับจังหวะหรือผลัดกันเล่นเช็คพอยต์น่าจะสนุกดี
ถาม: เล่นแบบสั้นๆ วันละนิดได้ไหม หรือควรยาวๆ ทีเดียว?
ตอบ: ได้ทั้งคู่ เกมแบ่งเป็น Kingdom ชัดเจน สามารถเล่นวันละหนึ่ง–สองเควสต์ หรือเดินสำรวจแค่บางมุมแล้วเซฟจบก็ยังรู้สึกคืบหน้าอยู่ ไม่จำเป็นต้องเล่นยาวต่อเนื่องถึงจะสนุก
ถาม: ถ้ามี Nintendo Switch อยู่แล้ว ควรซื้อเกมนี้มาไว้มั้ย?
ตอบ: ถ้าคุณชอบแพลตฟอร์ม/เกมโลกสดใส/ มาริโอ คำตอบแทบจะเป็น “ควร” เลย เพราะนี่คือหนึ่งในเกมที่มักโดนจัดให้เป็น “Top ของเครื่อง” แบบติดลิสต์ตลอด แถมเล่นวนได้หลายรอบโดยไม่เบื่อ
สรุป: ทำไม Super Mario Odyssey ยังควรอยู่ในลิสต์ “ต้องเล่นสักครั้ง”
สุดท้ายแล้ว Super Mario Odyssey ไม่ได้เป็นแค่ “อีกหนึ่งภาคมาริโอ”
แต่มันคือจดหมายรักถึงแฟน มาริโอ ทุกยุค และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีให้คนใหม่รู้จักโลกของลุงหนวดชุดแดงอีกครั้ง
มันสอนเราว่าเกมแพลตฟอร์มยังสดใหม่ได้
ถ้ากล้าใส่ไอเดียบ้าๆ อย่างหมวกที่ยึดร่างได้
มันทำให้การเที่ยวแต่ละ Kingdom เหมือนการออกทริปจริงๆ
และทำให้เราได้กลับไปเป็นเด็กที่ตื่นเต้นกับ “ด่านต่อไป” อยู่ตลอดเวลา
ในวันที่โลกจริงเต็มไปด้วยตัวเลข งาน และความกังวล
ไม่ว่าจะเป็นเดดไลน์ในออฟฟิศ หรือการลุ้นผลอะไรสักอย่างในเว็บอย่าง ยูฟ่าเบท การได้หยิบ Super Mario Odyssey ขึ้นมา แล้วปล่อยตัวเองให้หลุดไปอยู่กับการโดดข้ามหลังคาใน New Donk City หรือขี่ T-Rex พังหินเล่นใน Cascade Kingdom สักชั่วโมงสองชั่วโมง
อาจไม่ช่วยให้ปัญหาชีวิตหายไป
แต่จะทำให้หัวใจเราเบาลงนิดหนึ่ง
และย้ำให้จำได้ว่า…แค่ได้หัวเราะ ยิ้ม และตื่นเต้นไปกับเกมดีๆ อย่าง Super Mario Odyssey บ้างในแต่ละวัน ก็เป็น “ชัยชนะเล็ก ๆ” ที่สำคัญไม่แพ้ชัยชนะในโลกจริงเลย 🌈🎩🍄